เจ้าเงาะมหัศจรรย์จินดามณี เรียกทรพัย์เรียกเงิน, ลอยองค์ ขนาดห้อยคอ
หลวงพ่อ แดง วัดห้วยฉลอง
เจ้าเงาะมหัศจรรย์จินดามณี เรียกทรัพย์รับเงิน
อิทธิมงคลเรียกทรัพย์รับเงิน
ตำรับหลวงปู่แดง
วิชาทางเรียกทรัพย์ เจริญลาภมากด้วยเมตตานั้นนับเป็นวิชาที่มีความสำคัญมาแต่โบราณ เพราะผู้ใดที่ได้ร่ำเรียนทางวิชานี้หรือมีของมงคลในสายวิชาไม่ว่าพระคาถาหรือเครื่องรางผู้นั้นย่อมบริบูรณ์ไปด้วยทรัพย์ โภชนาหาร และยังเป็นผู้เปี่ยมไปด้วยเมตตา มีคนนับถือรักใคร่ บังเกิดความสุขความร่มเย็น ดังนั้นแต่โบราณมาจึงมีผู้พยายามแสวงหาสุดยอดวิชาทางเมตตาค้าขาย เจริญด้วยโชคลาภความร่ำรวย เพื่อให้ตนเองพ้นจากความทุกข์ยาก ไม่ต้องลำบากยากจน มีชีวิตความเป็นอยู่อย่างสบายปราศจากความแร้นแค้น
หลวงปู่แดง ท่านเล็งเห็นถึงความสำคัญในวิชาสายโชคลาภ เจริญรุ่งเรือง ทั้งยังเห็นว่าในยุคนี้จะไม่มีวิชาใดที่สำคัญไปกว่าวิชาทางทำมาหากินค้าขายร่ำรวย ช่วยพ้นความจนอีกแล้ว ดังนั้นท่านจึงนำเอาสายวิชาทางเมตตาค้าขายที่มีแต่โบราณนำออกมาช่วยเหลือลูกศิษย์ทั้งหลายให้ได้พ้นจากความอดอยากยากจน และให้เกิดความมั่งคั่งเป็นเศรษฐีมีโชคดี มีเมตตา หลวงปู่แดงท่านกล่าวว่าหากจะกล่าวกันถึงวิชาเมตตาค้าขายนั้นแต่โบราณก็ผูกวิชาลักษณะนี้ไว้หลายอย่าง แต่ที่สำคัญและโดดเด่น มาตั้งแต่สมัยสุโขทัยนั้นคงไม่มีวิชาไหนจะเกินไปกว่า วิชาจินดามณี
สายวิชาจินดามณีนั้นมีหลายสายวิชาด้วยกัน ที่เน้นไปทางเมตตาก็มี ที่เน้นไปทางการทำมาหากินก็มี หรือเน้นไปทางชนะข้าศึกศัตรูก็มีด้วยเช่นกันหลวงปู่แดงท่านว่าตัวท่านได้ร่ำเรียนมาครบทุกสายและบัดนี้ท่านเห็นว่าถึงเวลาแล้วที่ท่านจะนำวิชานี้มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยเฉพาะลูกศิษย์และผู้ศรัทธาทั้งหลายได้เห็นถึงความอัศจรรย์แห่งสายวิชาดังกล่าวนี้
วิชาที่น่าอัศจรรย์จากสายวิชาจินดามณีที่เป็นเอกอุเรื่องการทำมาหากินให้ได้คล่องๆ บังเกิดความเจริญไพบูลย์พูนผล อุดมสมบูรณ์ให้ข้าวปลาอาหาร ทรัพย์สินบริวาร และยังเปี่ยมด้วยเสน่ห์เมตตาอย่างสูงสุดวิชาหนึ่งก็คือ วิชาเงาะป่าจินดามณี วิชาเงาะป่านี้บางครูท่านเรียกว่าวิชาพระสังข์แปลงรูป หรือพระสังข์ซ่อนรูป ที่มาวิชานี้คือเมื่อพระสังข์ทองได้เกราะวิเศษคือหน้ากากเงาะป่ามาแล้วเมื่อสวมเข้าในตัวจะแปลงรูปพระสังข์ไปเป็นเงาะป่าที่ดูเหมือนคนบ้าใบ้ หน้าตาดูพิลึก ปากหนาตาเล่อ ผิวดำ ผมหยิก แต่ในอานุภาพวิเศษแห่งเจ้าเงาะป่านี้คือสามารถนี้คืออยู่รอดปลอดภัยในป่าดง ทั้งด้วยอานุภาพวิเศษแห่งมนต์จินดามณียังสามารถเรียกเนื้อเรียกปลาให้มาหาตนได้ และเมื่อพระสังข์อยู่ในรูปเงาะป่าแท้ๆแต่เมื่อนางรจนาเห็นกลับโยนพวงมาลัยเลือกคู่ให้
วิชาทางเรียกทรัพย์ เจริญลาภมากด้วยเมตตานั้นนับเป็นวิชาที่มีความสำคัญมาแต่โบราณ เพราะผู้ใดที่ได้ร่ำเรียนทางวิชานี้หรือมีของมงคลในสายวิชาไม่ว่าพระคาถาหรือเครื่องรางผู้นั้นย่อมบริบูรณ์ไปด้วยทรัพย์ โภชนาหาร และยังเป็นผู้เปี่ยมไปด้วยเมตตา มีคนนับถือรักใคร่ บังเกิดความสุขความร่มเย็น ดังนั้นแต่โบราณมาจึงมีผู้พยายามแสวงหาสุดยอดวิชาทางเมตตาค้าขาย เจริญด้วยโชคลาภความร่ำรวย เพื่อให้ตนเองพ้นจากความทุกข์ยาก ไม่ต้องลำบากยากจน มีชีวิตความเป็นอยู่อย่างสบายปราศจากความแร้นแค้น
หลวงปู่แดง ท่านเล็งเห็นถึงความสำคัญในวิชาสายโชคลาภ เจริญรุ่งเรือง ทั้งยังเห็นว่าในยุคนี้จะไม่มีวิชาใดที่สำคัญไปกว่าวิชาทางทำมาหากินค้าขายร่ำรวย ช่วยพ้นความจนอีกแล้ว ดังนั้นท่านจึงนำเอาสายวิชาทางเมตตาค้าขายที่มีแต่โบราณนำออกมาช่วยเหลือลูกศิษย์ทั้งหลายให้ได้พ้นจากความอดอยากยากจน และให้เกิดความมั่งคั่งเป็นเศรษฐีมีโชคดี มีเมตตา หลวงปู่แดงท่านกล่าวว่าหากจะกล่าวกันถึงวิชาเมตตาค้าขายนั้นแต่โบราณก็ผูกวิชาลักษณะนี้ไว้หลายอย่าง แต่ที่สำคัญและโดดเด่น มาตั้งแต่สมัยสุโขทัยนั้นคงไม่มีวิชาไหนจะเกินไปกว่า วิชาจินดามณี
สายวิชาจินดามณีนั้นมีหลายสายวิชาด้วยกัน ที่เน้นไปทางเมตตาก็มี ที่เน้นไปทางการทำมาหากินก็มี หรือเน้นไปทางชนะข้าศึกศัตรูก็มีด้วยเช่นกันหลวงปู่แดงท่านว่าตัวท่านได้ร่ำเรียนมาครบทุกสายและบัดนี้ท่านเห็นว่าถึงเวลาแล้วที่ท่านจะนำวิชานี้มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยเฉพาะลูกศิษย์และผู้ศรัทธาทั้งหลายได้เห็นถึงความอัศจรรย์แห่งสายวิชาดังกล่าวนี้
วิชาที่น่าอัศจรรย์จากสายวิชาจินดามณีที่เป็นเอกอุเรื่องการทำมาหากินให้ได้คล่องๆ บังเกิดความเจริญไพบูลย์พูนผล อุดมสมบูรณ์ให้ข้าวปลาอาหาร ทรัพย์สินบริวาร และยังเปี่ยมด้วยเสน่ห์เมตตาอย่างสูงสุดวิชาหนึ่งก็คือ วิชาเงาะป่าจินดามณี วิชาเงาะป่านี้บางครูท่านเรียกว่าวิชาพระสังข์แปลงรูป หรือพระสังข์ซ่อนรูป ที่มาวิชานี้คือเมื่อพระสังข์ทองได้เกราะวิเศษคือหน้ากากเงาะป่ามาแล้วเมื่อสวมเข้าในตัวจะแปลงรูปพระสังข์ไปเป็นเงาะป่าที่ดูเหมือนคนบ้าใบ้ หน้าตาดูพิลึก ปากหนาตาเล่อ ผิวดำ ผมหยิก แต่ในอานุภาพวิเศษแห่งเจ้าเงาะป่านี้คือสามารถนี้คืออยู่รอดปลอดภัยในป่าดง ทั้งด้วยอานุภาพวิเศษแห่งมนต์จินดามณียังสามารถเรียกเนื้อเรียกปลาให้มาหาตนได้ และเมื่อพระสังข์อยู่ในรูปเงาะป่าแท้ๆแต่เมื่อนางรจนาเห็นกลับโยนพวงมาลัยเลือกคู่ให้
ครูบาอาจารย์แต่โบราณจึงเห็นว่ารูปเงาะป่านั้นมีนิมิตอันเป็นมงคลอยู่ถึง ๙ ประการคือ
๑. เงาะป่ามีอำนาจทางเสน่ห์เมตตาสูงส่ง ดีต่อเพศตรงข้าม ใช้ได้ทั้งหญิงและชาย
๒. ดีทั้งทางค้ำชูดวงชะตา เป็นเมตตาอารัยรักต่อผู้ใหญ่ที่เข้าหา จะบังเกิดเมตตาอุปการะดุจว่าเป็นลูกหลาน ไปที่ใดย่อมได้รับความช่วยเหลือเป็นที่รักแก่มนุษย์และเทวดาทั้งปวง
๓. เป็นที่มาแห่งข้าวปลาอาหาร ทรัพย์สินเงินทองทั้งปวง
๔. เกิดโชคลาภอยู่เสมอ เงินทองไม่ขาดมือ
๕. ทำให้เจริญในหน้าที่การงาน ได้มาซึ่งยศตำแหน่ง
๖. ทำมาหากินได้คล่อง ธุรกิจการงานมีกำไรดี
๗. พูดจาสิ่งใดคนรักคนเชื่อถือ เป็นเสน่ห์ทางคำพูดจา ให้ไพเราะจับใจผู้ฟัง
๘. มีเทวดารักษาไปไหนมาไหนจะแคล้วคลาดปลอดภัย
๙. เป็นยอดแห่งนะจังงัง มหาละลวยทั้งตบะเดชะในตัวเอง
๑. เงาะป่ามีอำนาจทางเสน่ห์เมตตาสูงส่ง ดีต่อเพศตรงข้าม ใช้ได้ทั้งหญิงและชาย
๒. ดีทั้งทางค้ำชูดวงชะตา เป็นเมตตาอารัยรักต่อผู้ใหญ่ที่เข้าหา จะบังเกิดเมตตาอุปการะดุจว่าเป็นลูกหลาน ไปที่ใดย่อมได้รับความช่วยเหลือเป็นที่รักแก่มนุษย์และเทวดาทั้งปวง
๓. เป็นที่มาแห่งข้าวปลาอาหาร ทรัพย์สินเงินทองทั้งปวง
๔. เกิดโชคลาภอยู่เสมอ เงินทองไม่ขาดมือ
๕. ทำให้เจริญในหน้าที่การงาน ได้มาซึ่งยศตำแหน่ง
๖. ทำมาหากินได้คล่อง ธุรกิจการงานมีกำไรดี
๗. พูดจาสิ่งใดคนรักคนเชื่อถือ เป็นเสน่ห์ทางคำพูดจา ให้ไพเราะจับใจผู้ฟัง
๘. มีเทวดารักษาไปไหนมาไหนจะแคล้วคลาดปลอดภัย
๙. เป็นยอดแห่งนะจังงัง มหาละลวยทั้งตบะเดชะในตัวเอง
คุณทั้ง ๙ ประการนี้เป็นสิริที่อยู่ในรูปอาถรรพ์คือเงาะป่า แต่โบราณว่าเพียงขึ้นรูปเงาะป่าอาถรรพ์ยังไม่ทันเสกก็มีฤทธิ์ในตัวแล้วเพราะครูในสายวิชานี้ท่านแรง ผู้ที่บูชารูปเงาะป่าจินดามณีโดยระลึกถึงคุณพระพุทธเจ้า พระธรรมเจ้า พระอริยสงฆ์เจ้า พระโพธิสัตว์ทั้งปวง คุณของพระพุทธเจ้าเมื่อเสวยชาติเป็นพระสังข์ทอง คุณของพระพุทธเจ้าทั้ง ๕ พระองค์ คุณบิดามารดาครูบาอาจารย์ เทวดาทั้งหมด พรหมทั้งหมด ครูแม่พันธุรัตเป็นที่สุด แล้วสำรวมใจบริกรรมพระคาถาจินดามณีหน้ารูปเงาะป่าแล้วจะบังเกิดปาฏิหาริย์เป็นที่อัศจรรย์แก่ผู้นั้น โดยปาฏิหาริย์จะเป็นสิริมงคลทั้ง ๙ ประการแก่ผู้ที่ตั้งใจบูชา อาทิว่าเมตตามหานิยมและเจริญด้วยโภคทรัพย์ สมบัติ ข้าวปลาอาหารผู้ที่หมั่นทำจะสังเกตได้ว่าไปไหนมาไหนจะมีผู้คนให้ข้าวของติดไม้ติดมือตลอดเมื่อบูชาเจ้าเงาะป่าด้วยพระคาถาจินดามณีเป็นนิจท่านจะเห็นผลเอง เป็นที่เชื่อถือสืบมาแต่โบราณ
การทำวิชาเงาะป่าจินดามณีนี้หลวงปู่แดงท่านตั้งใจในการทำวัตถุมงคลชุดนี้ที่สุด โดยท่านอนุญาตให้ถอดพิมพ์วัตถุมงคลจากศีรษะครูเจ้าเงาะที่ท่านบูชาอยู่เป็นประจำ ท่านว่าเมื่อขึ้นรูปอาถรรพ์เจ้าเงาะโดยอาศัยศีรษะครูของท่านเป็นแบบย่อมถือได้ว่าของที่กำเนิดขึ้นมานั้นย่อมมีพลังลึกภายในตัวเองมาจากที่ดีสิ่งดี ก็ย่อมดีเป็นธรรมดา นอกจากนั้นผงที่ใช้อุดก็อาศัยผงพระพุทธคุณสำคัญ เช่นผงจากการลบยันต์และพระคาถาไก่เถื่อนหรือไก่แก้วกุกลูก อันเป็นพระคาถาทางเมตตาบารมีและทางเจริญในลาภผลอยู่แล้ว และได้อาศัยผงพระพุทธคุณจินดามณีนี้ดีเหมือนแก้วสารพัดนึก แต่โบราณก็สรรเสริญพระคาถานี้ไว้ว่าเป็นดุจแก้วสารพัดนึกซึ่งตีความได้หลายอย่าง ในทางมายาศาสตร์หรือไสยะนั้นท่านว่ามันเป็นเมตตามหานิยมชั้นสูง เป็นของเย็นของดีเป็นที่มาแห่งทรัพย์ ไปไหนใครก็รัก อยู่เฉยๆ ไม่ต้องเอ่ยปากขอก็มีคนให้ ท่านว่ามันดีเช่นนี้จึงเรียกว่าดีดุจแก้วสารพัดนึก แต่โบราณไม่ค่อยมีใครสร้างวัตถุมงคลด้วยวิชาจินดามณีต้องอาศัยแต่บริกรรมคาถากันเองเอง หรือไม่ก็อาศัยบูชารูปวาดหรือหน้าโขนเท่านั้น แต่ในครั้งนี้ถือว่าเป็นการเปิดตำนานแห่งวิชาจินดามณีที่มีการสร้างเจ้าเงาะป่าอย่างเต็มสูตร
การจะได้มาซึ่งวัตถุมงคลเจ้าเงาะป่าชนิดเต็มสูตรนั้น ไม่ใช่ว่าจะอาศัยเพียงพระคาถาจินดามณีในการเสกเท่านั้นเพราะผู้เสกต้องประจุอาคมด้วยพระเวทย์นารายณ์แปลงรูปลงไปด้วย ประกอบกับพระคาถาทางโชคลาภทั้งปวง และเมื่อเมื่อเสกประจุนั้นจิตของผู้เสกต้องอยู่ในสุขสมาธิ ให้ถือเอาเป็นอารมณ์พื้นฐานในการเสกจึงใช้ได้ ยามเสกต้องมีเครื่องบูชาประกอบด้วยข้าวปลาอาหารและดอกไม้หอม ดอกไม้สี มีผ้าแดงผ้าขาวบูชา
กรรมวิธีประจุอาคมลงยังเจ้าเงาะป่าทั้งที่เป็นหน้ากากเจ้าเงาะและรูปหล่อเจ้าเงาะนั้นท่านว่าเราต้องทรงสมาธิให้ดี ทุกครั้งที่ทำต้องขอบารมีพระโพธิสัตว์ พระพรหม และที่สำคัญต้องกล่าวอัญเชิญแม่พันธุรัตให้ท่านมาประสิทธิให้ ทุกครั้งที่ทำต้องเจริญพระคาถากรณียเมตตาสูตรประกอบด้วยและรับรองได้ว่าของชุดนี้ที่สร้างขึ้นถือว่าเป็นยอดวัตถุมงคลทางเมตตามหานิยม มหาเสน่ห์อย่างสูงส่ง และยอดเยี่ยมในเรื่องลาภผล ยากที่จะหาอาถรรพ์วัตถุหรือวัตถุมงคลใดๆ มาเทียบได้ ที่ท่านทำมาของชุดนี้นับได้ว่าแรงอย่างไม่เคยมีมาก่อน เพียงแต่รูปก็มีอาถรรพ์สูงอยู่แล้ว เมื่อทำเต็มสูตรจึงไม่ต้องสงสัยในพลังบารมีที่แฝงอยู่ข้างใน
การทำวิชาเงาะป่าจินดามณีนี้หลวงปู่แดงท่านตั้งใจในการทำวัตถุมงคลชุดนี้ที่สุด โดยท่านอนุญาตให้ถอดพิมพ์วัตถุมงคลจากศีรษะครูเจ้าเงาะที่ท่านบูชาอยู่เป็นประจำ ท่านว่าเมื่อขึ้นรูปอาถรรพ์เจ้าเงาะโดยอาศัยศีรษะครูของท่านเป็นแบบย่อมถือได้ว่าของที่กำเนิดขึ้นมานั้นย่อมมีพลังลึกภายในตัวเองมาจากที่ดีสิ่งดี ก็ย่อมดีเป็นธรรมดา นอกจากนั้นผงที่ใช้อุดก็อาศัยผงพระพุทธคุณสำคัญ เช่นผงจากการลบยันต์และพระคาถาไก่เถื่อนหรือไก่แก้วกุกลูก อันเป็นพระคาถาทางเมตตาบารมีและทางเจริญในลาภผลอยู่แล้ว และได้อาศัยผงพระพุทธคุณจินดามณีนี้ดีเหมือนแก้วสารพัดนึก แต่โบราณก็สรรเสริญพระคาถานี้ไว้ว่าเป็นดุจแก้วสารพัดนึกซึ่งตีความได้หลายอย่าง ในทางมายาศาสตร์หรือไสยะนั้นท่านว่ามันเป็นเมตตามหานิยมชั้นสูง เป็นของเย็นของดีเป็นที่มาแห่งทรัพย์ ไปไหนใครก็รัก อยู่เฉยๆ ไม่ต้องเอ่ยปากขอก็มีคนให้ ท่านว่ามันดีเช่นนี้จึงเรียกว่าดีดุจแก้วสารพัดนึก แต่โบราณไม่ค่อยมีใครสร้างวัตถุมงคลด้วยวิชาจินดามณีต้องอาศัยแต่บริกรรมคาถากันเองเอง หรือไม่ก็อาศัยบูชารูปวาดหรือหน้าโขนเท่านั้น แต่ในครั้งนี้ถือว่าเป็นการเปิดตำนานแห่งวิชาจินดามณีที่มีการสร้างเจ้าเงาะป่าอย่างเต็มสูตร
การจะได้มาซึ่งวัตถุมงคลเจ้าเงาะป่าชนิดเต็มสูตรนั้น ไม่ใช่ว่าจะอาศัยเพียงพระคาถาจินดามณีในการเสกเท่านั้นเพราะผู้เสกต้องประจุอาคมด้วยพระเวทย์นารายณ์แปลงรูปลงไปด้วย ประกอบกับพระคาถาทางโชคลาภทั้งปวง และเมื่อเมื่อเสกประจุนั้นจิตของผู้เสกต้องอยู่ในสุขสมาธิ ให้ถือเอาเป็นอารมณ์พื้นฐานในการเสกจึงใช้ได้ ยามเสกต้องมีเครื่องบูชาประกอบด้วยข้าวปลาอาหารและดอกไม้หอม ดอกไม้สี มีผ้าแดงผ้าขาวบูชา
กรรมวิธีประจุอาคมลงยังเจ้าเงาะป่าทั้งที่เป็นหน้ากากเจ้าเงาะและรูปหล่อเจ้าเงาะนั้นท่านว่าเราต้องทรงสมาธิให้ดี ทุกครั้งที่ทำต้องขอบารมีพระโพธิสัตว์ พระพรหม และที่สำคัญต้องกล่าวอัญเชิญแม่พันธุรัตให้ท่านมาประสิทธิให้ ทุกครั้งที่ทำต้องเจริญพระคาถากรณียเมตตาสูตรประกอบด้วยและรับรองได้ว่าของชุดนี้ที่สร้างขึ้นถือว่าเป็นยอดวัตถุมงคลทางเมตตามหานิยม มหาเสน่ห์อย่างสูงส่ง และยอดเยี่ยมในเรื่องลาภผล ยากที่จะหาอาถรรพ์วัตถุหรือวัตถุมงคลใดๆ มาเทียบได้ ที่ท่านทำมาของชุดนี้นับได้ว่าแรงอย่างไม่เคยมีมาก่อน เพียงแต่รูปก็มีอาถรรพ์สูงอยู่แล้ว เมื่อทำเต็มสูตรจึงไม่ต้องสงสัยในพลังบารมีที่แฝงอยู่ข้างใน
ผู้ที่ได้วัตถุมงคลนี้ไปบูชา วันแรกที่ได้ไปจัดหาดอกเข็มแดง หรือดอกกุหลาบ หรือพวงมาลัยเจ็ดสี เอาชายเป็นดอกกุหลาบ ขึ้นบูชาจุดธูป ๙ ดอกตั้งนะโม ๓ จบ กล่าวคำบูชาพระรัตนตรัยด้วยการกล่าวอรหังสัมมาจนถึงสุปฏิปันโณ จากนั้นหากสวดอิติปิโส สวาขาโตจนจบห้องพระสังฆคุณเป็นการนมัสการพระรัตนตรัยก่อนจะเป็นสิริมงคลอย่างยิ่ง แล้วกล่าวชุมนุมเทวดา จากนั้นตั้งใจสวดพระคาถา กรณียเมตตาสูตร แล้วค่อยสวดพระคาถาจินดามณีบูชา จะเป็นสิริมงคลอย่างยิ่งและหากปฏิบัติได้ดังนี้ทุกวันจะบังเกิดโภคทรัพย์ โชคลาภมากมาย ให้ท่านเห็นเป็นอัศจรรย์ แต่หากไม่มีเวลาให้ตั้งใจสวดพระคาถาจินดามณีบูชารูปเจ้าเงาะเป็นอันใช้ได้
วันแรกที่ได้มานั้นท่านให้จัดหาข้าวปลาอาหาร ของคาวหวานและผลไม้ เช่นขนุน เงาะ ฝรั่ง กล้วย มะพร้าว ฯลฯ มาถวายด้วยจะเป็นการดี เพราะวันแรกที่รับมานั้นถือว่าสำคัญยิ่งให้ทำการรับให้ดีจากนั้นท่านจะมีโชคลาภ ในขณะที่อธิฐานนั้นให้ตั้งมั่นในคุณพระรัตนตรัยให้เที่ยงแท้ระลึกถึงครูบาอาจารย์บิดามารดาคุณเงาะป่าเทพเทวดาทั้งหมดคุณพระโพธิสัตว์เจ้าให้มาสงเคราะห์ตัวเอง อธิฐานจิตในสิ่งที่เป็นประโยชน์จึงจะเกิดผล เมื่อเกิดผลดีอันใดให้ทำบุญบริจาคทานในพระพุทธศาสนา ให้บำรุงบิดามารดาของท่าน ทั้งบริจาคของให้คนยากจน แล้วอุทิศผลบุญนั้นแก่บูรพาจารย์ที่ล่วงลับจะเกิดโชคลาภอีกมากเท่าพันทวีเงินทองจะไหลมาไม่ขาดสายเลย
หากมีร้านค้าให้อาราธนาวัตถุมงคลเจ้าเงาะป่าที่เป็นหน้ากากก็ดี รูปหล่อก็ดี อาราธนาทำน้ำมนต์เรียกลาภ สวดพระคาถาจินดามณี ๓ จบแล้วนำน้ำมาล้างหน้าบ้าง มาประพรมสินค้าบ้างจะโชคดี แม้จะทำกิจการสิ่งใดไปเจรจาที่ไหนก็ตามให้ยกเจ้าเงาะป่าขึ้นเหนือเศียรเหนือเกล้า บอกกล่าวให้ดีให้คุณเทพยดามาช่วยอนุเคราะห์ ตั้งจิตแผ่เมตตาความปรารถนาดีโดยรอบ ทำกำลังใจตนให้ดี อย่าให้ขุ่นมัวเลย อธิฐานตั้งจิตให้มั่นคงก็จะสำเร็จสมปรารถนาทุกประการ
แต่โบราณท่านกล่าวสรรเสริญไว้ว่ารูปเงาะป่านั้นเป็นกายสิทธิ์ที่มีอิทธิฤทธิ์ในตัว ผู้จะได้ครอบครองต้องเป็นพระโพธิสัตว์ผู้สร้างสมทศบารมีเท่านั้น ด้วยเหตุนี้พระสุวรรณสังข์จึงได้มีวาสนาเข้าครอบครองเป็นของคุ้มภยันอันตรายและเรียกลาภทั้งข้าวปลาอาหารตามใจปรารถนา จากพระชาดกแต่โบราณมาบัดนี้รูปเงาะป่าได้ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้ผู้มีวาสนาผู้ศรัทธาในพระรัตนตรัยได้บูชาเพื่อให้พ้นทุกข์ทั้งปวงทั้งจากข้าวยากหมากแพง จากโรคระบาด โรคภัยไข้เจ็บและภัยทั้งปวงให้บังเกิดโชคลาภความร่มเย็นเป็นสุขโดยถ้วนหน้า
ผู้ที่มีรูปอาถรรพ์อันโบราณจารย์กล่าวไว้ว่าเป็นกายสิทธิ์คือ รูปเงาะป่านี้บูชาไว้พร้อมทั้งหมั่นเจริญภาวนาพระคาถาจินดามณีทุกเช้าค่ำจะบังเกิดความศักดิ์สิทธิ์เข้มขลังยิ่งนัก เพราะนับได้ว่าผู้นั้นมีโชควาสนาถึงสองประการคือ มีของดี ได้แก่รูปเจ้าเงาะ และ ๒ มีคาถาดีคือ พระคาถาจินดามณี เมื่อนำมาประกอบกันย่อมก่อฤทธิ์ก่ออัศจรรย์ให้แก่ผู้ศรัทธา โดยการสวดพระคาถาจินดามณีนี้บูชาเจ้าเงาะทุกเช้าค่ำ อย่างน้อยสองเวลา และหากปฏิบัติได้ให้สวดพระคาถานี้ไว้ในใจเสมอๆ ยามเปิดร้าน ยามเดินทาง ยามว่างก็จะเกิดผลดีเป็นที่ประจักษ์ในไม่ช้า
หากมีร้านค้าให้อาราธนาวัตถุมงคลเจ้าเงาะป่าที่เป็นหน้ากากก็ดี รูปหล่อก็ดี อาราธนาทำน้ำมนต์เรียกลาภ สวดพระคาถาจินดามณี ๓ จบแล้วนำน้ำมาล้างหน้าบ้าง มาประพรมสินค้าบ้างจะโชคดี แม้จะทำกิจการสิ่งใดไปเจรจาที่ไหนก็ตามให้ยกเจ้าเงาะป่าขึ้นเหนือเศียรเหนือเกล้า บอกกล่าวให้ดีให้คุณเทพยดามาช่วยอนุเคราะห์ ตั้งจิตแผ่เมตตาความปรารถนาดีโดยรอบ ทำกำลังใจตนให้ดี อย่าให้ขุ่นมัวเลย อธิฐานตั้งจิตให้มั่นคงก็จะสำเร็จสมปรารถนาทุกประการ
แต่โบราณท่านกล่าวสรรเสริญไว้ว่ารูปเงาะป่านั้นเป็นกายสิทธิ์ที่มีอิทธิฤทธิ์ในตัว ผู้จะได้ครอบครองต้องเป็นพระโพธิสัตว์ผู้สร้างสมทศบารมีเท่านั้น ด้วยเหตุนี้พระสุวรรณสังข์จึงได้มีวาสนาเข้าครอบครองเป็นของคุ้มภยันอันตรายและเรียกลาภทั้งข้าวปลาอาหารตามใจปรารถนา จากพระชาดกแต่โบราณมาบัดนี้รูปเงาะป่าได้ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้ผู้มีวาสนาผู้ศรัทธาในพระรัตนตรัยได้บูชาเพื่อให้พ้นทุกข์ทั้งปวงทั้งจากข้าวยากหมากแพง จากโรคระบาด โรคภัยไข้เจ็บและภัยทั้งปวงให้บังเกิดโชคลาภความร่มเย็นเป็นสุขโดยถ้วนหน้า
ผู้ที่มีรูปอาถรรพ์อันโบราณจารย์กล่าวไว้ว่าเป็นกายสิทธิ์คือ รูปเงาะป่านี้บูชาไว้พร้อมทั้งหมั่นเจริญภาวนาพระคาถาจินดามณีทุกเช้าค่ำจะบังเกิดความศักดิ์สิทธิ์เข้มขลังยิ่งนัก เพราะนับได้ว่าผู้นั้นมีโชควาสนาถึงสองประการคือ มีของดี ได้แก่รูปเจ้าเงาะ และ ๒ มีคาถาดีคือ พระคาถาจินดามณี เมื่อนำมาประกอบกันย่อมก่อฤทธิ์ก่ออัศจรรย์ให้แก่ผู้ศรัทธา โดยการสวดพระคาถาจินดามณีนี้บูชาเจ้าเงาะทุกเช้าค่ำ อย่างน้อยสองเวลา และหากปฏิบัติได้ให้สวดพระคาถานี้ไว้ในใจเสมอๆ ยามเปิดร้าน ยามเดินทาง ยามว่างก็จะเกิดผลดีเป็นที่ประจักษ์ในไม่ช้า
ชื่อ เจ้าเงาะมหัศจรรย์จินดามณี เรียกทรัพย์รับเงิน ท่ารำเรียกเนื้อปลา
เนื้อ นวะโลหะ
ขนาด 2.4 ซม. x 4.3 ซม.
จำนวนสร้าง 2,999 องค์
น้ำหนัก 150 g.
ที่มา:http://www.akefuture.com/product_view.asp?pid=964